เรวดี หาโครต "ความสุขที่ได้รับจากการทำงาน"
เรวดี หาโครต เป็นหนึ่งในคนทำงานหลายๆ คน ที่ต้องการทำงานในบริษัทที่ให้อิสระทางความคิดพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานมากกว่าทำงานภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวด ซึ่งทำให้เธอไม่มีความสุขและขาดความคล่องตัวในการทำงาน ด้วยไม่สามารถจะทำงานภายใต้ภาวะแรงกดดันภายในองค์กรได้ เธอจึงต้องเปลี่ยนงานบ่อยครั้ง โดยหวังลึกๆ ในใจว่า เธอจะได้พบความสุขในการทำงาน...
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2547 เธอได้มีโอกาสเข้ามาเป็นเจ้าที่ฝ่ายการตลาดของ “ธนไพศาล” จากวันนั้นจนถึงวันนี้...เธอก็ไม่เคยมองหาที่ทำงานใหม่อีกเลย
“ดิฉันทำงานที่ธนไพศาลเป็นเวลา 10 ปี ทำงานที่นี่แล้วมีความสุข พนักงานทุกคนอยู่กันแบบพี่น้อง ไม่มีการชิงดีชิงเด่น ทุกคนตั้งใจทำงานของตนเองอย่างดีที่สุด แม้บางครั้งพวกเราจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้าง แต่เราก็พูดคุยกันด้วยเหตุผล รุ่นพี่ก็รับฟังรุ่นน้อง รุ่นน้องก็เคารพรุ่นพี่ ที่นี่จึงอยู่กันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
ทุกวันนี้ ดิฉันสนุกกับงานใหม่ๆ ที่ได้รับมอบหมาย และไม่รู้สึกเบื่อหน่ายในการทำงาน เนื่องจากระบบการทำงานของธนไพศาล ผู้บริหารจะให้อิสระในการทำงานกับลูกน้องอย่างเต็มที่ โดยเจ้านายจะเป็นเพียงผู้วางแนวทางและกำหนดเป้าหมายในการทำงาน ซึ่งเป็นเสมือนคู่มือที่ช่วยให้ลูกน้องทำงานได้สะดวกขึ้น ส่วนรายละเอียดของงาน เราสามารถวางแผนได้ด้วยตัวเอง ถ้ามีปัญหาติดขัดตรงไหน ก็สามารถพูดคุยกับเจ้านายได้ตลอดเวลา
ยกตัวอย่างเช่น ดิฉันเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด มีหน้าที่ดูแลการตลาดโดยรวมของบริษัทฯ ติดต่อประสานงานหาลูกค้าใหม่ และคอยดูแลบริการลูกค้ารายเดิมให้ได้รับความสะดวกสบายในการติดต่อซื้อขายกับบริษัท ขั้นตอนการทำงานดิฉันสามารถวางแผนได้เอง เช่น วันนี้จะไปทำอะไร ที่ไหน ไปพบลูกค้ากี่คน เมื่องานเสร็จเราก็รายงานผลให้ผู้บริหารทราบ เจ้านายจะไม่มาจู้จี้จุกจิกกับลูกน้อง ถามว่าวันนี้ไปไหนมา ทำอะไรบ้าง ทำไมไม่เข้าบริษัทฯ เป็นต้น เมื่อเจ้านายเข้าใจลูกน้อง เราก็ตอบแทนบริษัทด้วยการตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ” เรวดี กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องราวของเรวดีสะท้อนให้เห็นถึง การบริหารทรัพยากรบุคคลด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวดเกินไป โดยขาดจิตวิทยาและความเข้าใจพื้นฐานของมนุษย์ที่ต้องการการยอมรับและความเชื่อใจ อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพในการทำงานของบุคคลนั้นๆ ด้วยตระหนักถึงเหตุผลข้อนี้ “ธนไพศาล” จึงบริหารงานบนพื้นฐานแห่งความเข้าใจ เน้นการมีส่วนร่วมของพนักงาน ให้อิสระในการแสดงออก ร่วมคิด ร่วมพัฒนาองค์กร เพื่อให้ทุกคนได้ดึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวออกมาใช้อย่างเต็มที่ ซึ่งส่งผลดีในการสร้างองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป