นัฐพร ศรีสดใส
"ธนไพศาลคือโรงเรียนในชีวิตจริง"
หลายคนเชื่อว่า ถ้าอยากก้าวหน้าในอนาคต ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ๆ เพื่อหาประสบการณ์ที่หลากหลาย ครั้งหนึ่ง คุณนัฐพร ศรีสดใส เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ “ธนไพศาล” ก็เคยคิดเช่นนั้น แต่เมื่อได้มีโอกาสมาทำงานที่ ธนไพศาล ความคิดเขาก็เปลี่ยนไป...
สำหรับเขาแล้ว ธนไพศาล มีงานให้เขาได้เรียนรู้และได้พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ที่นี่จึงเปรียบเสมือนโรงเรียนให้เขาได้เรียนรู้อย่างไม่รู้จบ
แม้ปัจจุบันนี้อายุเขาจะก้าวสู่วัยเกษียณแล้ว แต่เขายังสนุกกับการได้เรียนรู้งานใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา วันนี้ เราจะพาไปรำลึกถึงวันวานกับคุณลุงนัฐพรที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวการทำงานและการดำเนินชีวิตที่ได้เรียนรู้จากโรงเรียนชีวิตแห่งนี้...
“ด้วยความที่ผมเรียนหนังสือมาน้อย จึงคิดอยู่เสมอว่าถ้าใครมีงานอะไรให้ทำ ผมจะทำให้หมด จะได้มีความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลายไว้พัฒนาตนเอง สร้างความก้าวหน้าในอาชีพต่อไปในอนาคต ผมจำได้ว่าประมาณปี พ.ศ. 2508 ผมเข้าทำงานในโรงพิมพ์ ซึ่งเจ้าของบริษัทเป็นเครือญาติเดียวกันกับธนไพศาล สมัยนั้นธนไพศาลยังเป็นโรงงานเล็กๆ มีพนักงานไม่กี่สิบคน ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทกำลังก่อตั้ง ทำให้ในเวลานั้นธนไพศาลขาดคนงาน ผมจึงอาสามาช่วยงานที่นี่ เพราะหวังอยากจะได้ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปจากเดิม
การทำงานในช่วงเริ่มต้นจึงเป็นการทำงานแบบไปๆ มาๆ ทั้ง 2 บริษัท ซึ่งก็ทำให้ผมได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ออกไป ผมเริ่มต้นทำงานที่ธนไพศาลในตำแหน่งพนักงานขับรถบรรทุกส่งสินค้าให้ลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด การขับรถส่งของทำให้ผมได้มีโอกาสพบปะลูกค้ามากมาย และที่สำคัญคือทำให้ผมได้มีโอกาสฝึกทักษะในการติดต่อประสางานกับลูกค้า ไม่ใช่ทำหน้าที่เป็นเพียงคนขับรถส่งของอย่างเดียว ชีวิตการทำงานของผมจึงไม่ซ้ำซากจำเจอีกต่อไป
เมื่อประสบการณ์การทำงานผมมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทฯ ก็ส่งเสริมให้ผมก้าวหน้าในหน้าที่การงาน จากเดิมเป็นพนักงานส่งของ ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้างานฝ่ายขนส่ง และปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด มีหน้าที่ดูแลงานส่งเสริมการขาย ไม่ว่าจะเป็น การออกไปหาลูกค้ารายใหม่ๆ หรือการไปเยี่ยมลูกค้าเดิม เป็นต้น ทำให้ทุกวันทำงานของผมเต็มไปด้วยการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
นอกจากความท้าทายในหน้าที่การงานแล้ว สิ่งที่เชื่อมโยงจิตใจผมกับธนไพศาลไว้ด้วยกัน คือ ความเมตตาของผู้บริหารที่มีกับลูกน้องทุกคน แม้ผมจะเป็นเพียงพนักงานเล็กๆ แต่ผู้บริหารก็ให้ความเอื้อเฟื้อดูแลพนักงานเหมือนคนในครอบครัว ผมจำได้ว่าทุกครั้งที่ผมมีปัญหาทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ท่านจะคอยให้คำแนะนำทุกอย่าง ผมจึงรักและเคารพท่านเหมือนญาติผู้ใหญ่ การได้ทำงานที่นี่จึงทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจ และไม่อยากจะไปทำงานที่อื่นอีกเลย” คุณลุงนัฐพร กล่าวทิ้งท้าย
ปัจจุบันการบริหารงานของธนไพศาลได้ถูกส่งผ่านมาถึงรุ่นที่ 2 แต่ผู้บริหารก็ยังคงบริหารงานตามแนวทางเดิมคือ “การให้โอกาส เข้าถึง และเข้าใจ” ซึ่งเป็นหัวใจที่หลอมรวมพนักงานทุกคนไว้ด้วยกัน